ย้อนดูผลงานผีแดงในถ้วยเอฟเอคัพ: หลังคว้าถ้วยจนถึงปัจจุบัน
10 มกราคม 2567 212

นับตั้งแต่เอาชนะคริสตัล พาเลซไปได้ในปี 2016 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ไม่สามารถกลับคืนไปสู่จุดสูงสุดในรายการฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกนี้ได้อีกเลย และมีผลงานขึ้น ๆ ลง ๆ ในรอบ 6-7 ปีที่ผ่านมา หลุยส์ ฟานกัล ผู้จัดการทีมในขณะนั้น ออกจากตำแหน่งทันทีหลังจากชัยชนะในเอฟเอคัพนัดดังกล่าว ก่อนจะตามมาด้วยยุคสมัยของโจเซ่ มูรินโญ่, โอเล่ กุนนาร์ โซลชา, ราล์ฟ รางนิก, และเอริก เทน ฮาก เรามาดูกันว่า ในรอบเกือบ 8 ปีนับตั้งแต่คว้าแชมป์เอฟเอคัพสมัยล่าสุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทำผลงานไปได้ถึงขนาดไหนบ้าง
2016-17: รอบ 6
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าแข่งขันรอบแรกในรอบที่ 3 โดยเปิดบ้านรับการมาเยือนของเรดดิง จากแชมเปี้ยนชิพ และสามารถเอาชนะไปได้ 4-0 จาก 2 ประตูของมาร์คัส แรชฟอร์ด และอีก 2 ประตูจากอ็องโทนี มาร์กซิยาล และเวย์น รูนี่ย์ ผ่านเข้าไปเจอกับวีแกนในรอบที่ 4 ก่อนจะเปิดบ้านเอาชนะไปด้วยสกอร์เดียวกัน 4-0 ผ่านเข้ารอบที่ 5 ไปพบกับแบล็กเบิร์นที่สนามอีวูด พาร์ค และเฉือนชนะไปได้ 2-1 ด้วยประตูชัยจากอิบราฮิโมวิช

ในรอบ 6 หรือรอบ 8 ทีมสุดท้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องไปเยือนเชลซีที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยก่อนหน้านั้นในช่วงต้นฤดูกาล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพ่ายแพ้ให้กับเชลซีไปถึง 0-4 และในเอฟเอคัพก็เป็นเช่นนั้น ยูไนเต็ดแพ้ไปด้วยสกอร์ 0-1 จากประตูชัยของเอ็นโกโล่ ก็องเต้ ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายและหมดโอกาสป้องกันแชมป์แต่เพียงเท่านั้น
2017-18: รองแชมป์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเริ่มเเข่งขันจากรอบที่ 3 เจอกับดาร์บี้ เคาน์ตี้ และสามารถเอาชนะไปได้ 2-0 ก่อนจะพบกับโยวิล ทาวน์ ในรอบที่ 4 และสามารถเอาชนะไปได้ 4-0 ในรอบที่ 5 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปเยือนฮัดเดอร์ฟิลด์ พร้อมคว้าชัยชนะมาด้วยสกอร์ 2-0 รอบ 8 ทีมสุดท้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะไบรท์ตันไปได้ 2-0 ผ่านเข้าไปเล่นที่เวมบลีย์เป็นครั้งแรกตั้งแต่คว้าแชมป์ในปี 2016

ที่เวมบลีย์ในรอบรองชนะเลิศ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะท็อตเเน่ม ฮ็อตสเปอร์สไปได้อย่างสุดมันส์ 2-1 ผ่านเข้าไปชิงแชมป์กับเชลซี ก่อนจะมาพลาดเสียจุดโทษตั้งแต่ต้นเกม ทำให้เอเด็น อาซาร์ยิงขึ้นนำให้เชลซีเอาชนะไปได้ 1-0
2018-19: รอบ 6
เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเริ่มต้นการเดินทางด้วยการแข่งขันกับเรดดิงในรอบที่ 3 ก่อนจะเอาชนะไปได้ 2-0 ก่อนจะลงเล่นบิ้กแมตช์กับอาร์เซน่อลที่สนามเอมิเรตส์ และเอาชนะไปได้ 3-1 ด้วยผลงานโดดเด่นจากอเล็กซิส ซานเชส ตามมาด้วยอีกหนึ่งบิ้กแมตช์ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยการเอาชนะเชลซีไป 2-0 คาสแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่กลับมาโดนวูลฟ์แฮมป์ตัน วอนเดอเรอส์ มาน็อคตกรอบไปด้วยสกอร์ 2-1 อย่างผิดฟอร์ม
2019-20: รอบรองชนะเลิศ
ในปีนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพลาดท่าต้องเล่นรอบรีเพลย์ตั้งแต่รอบ 3 หลังทำได้เพียงเสมอกับวูลฟ์แฮมป์ตัน วอนเดอเรอส์ 0-0 ก่อนจะกลับมาเก็บชัยชนะที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดได้ 1-0 ในรอบ 4 ยูไนเต็ดกดทีมลีกรองอย่างทรานเมียร์ โรเวอร์สไป 6-0 ตามด้วยการเก็บชัยในรอบ 5 จากทีมลีกรองอีกทีม ดาร์บี้ เคาน์ตี้ภายใต้การคุมทีมของแฟรงก์ แลมพาร์ด 3-0

ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูไนเต็ดโคจรมาพบกับนอริช ซิตี้ และต้องอาศัยช่วงต่อเวลาพิเศษในนาทีที่ 118 กว่าแฮร์รี แม็กไกวร์ จะมายิงประตูชัยส่งทีมเข้ารอบรองชนะเลิศที่เวมบลีย์ แต่ยูไนเต็ดก็มาได้ไกลแค่นี้ พ่ายแพ้ให้กับเชลซีไป 1-3
2020-21: รอบ 6
ในปีนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโคจรมาพบกับวัตฟอร์ตในรอบ 3 และเอาชนะไป 1-0 ในรอบต่อมารอบ 4 เป็นศึกแดงเดือดบอลถ้วย ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโชว์ฟอร์มดุเกินคาด เอาชนะลิเวอร์พูลไปได้ 3-2 ส่วนรอบ 5 เป็นการเปิดบ้านรับการมาเยือนของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด และต้องรอจนช่วงต่อเวลาพิเศษกว่าที่สก็อตต์ แมคโนมิเนย์จะมายิงประตูชัยให้กับทีมได้

ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องไปเยือนเลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนที่จะพ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 1-3 และเป็นเรื่องน่าทึ่งที่เป็นเลสเตอร์ ซิตี้นั่นแหละที่สามารถเดินทางต่อไปจนคว้าแชมป์เอฟเอคัพสมัยแรกมาครองได้สำเร็จ
2021-22: รอบ 4
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดประเดิมศึกเอฟเอคัพด้วยการเปิดบ้านเอาชนะแอสตัน วิลล่าไปด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูชัยของแม็คโทมิเนย์ แต่กลับมาโดนทีมลีกรองอย่างมิดเดิลสโบรห์ถีบตกรอบด้วยการดวลจุดโทษแพ้ 7-8 หลังจากในเกมช่วงเวลาปกติทำได้เพียงเสมอกัน 2-2 ทำให้เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตกรอบเอฟเอคัพเร็วที่สุดในรอบ 7 ปีนับตั้งแต่เเพ้สวอนซีตกรอบ 3 ในฤดูกาล 2013-14
2022-23: รองแชมป์
ในปีแรกของเอริก เทน ฮาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโชว์ผลงานโดดเด่นด้วยการคว้าแชมป์คาราบาวคัพเป็นถ้วยรางวัลแรกในรอบกว่า 5 ปีด้วยการเอาชนะนิวคาสเซิล 2-0 และหมายมั่นปั้นมือจะคว้าแชมป์เอฟเอคัพเป็นอีกหนึ่งถ้วย
โดยตั้งแต่รอบ 3 จนถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดสามารถเอาชนะคู่แข่งไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 ในทุกเกม ได้แก่ เอฟเวอร์ตัน เรดดิง เวสต์แฮมยูไนเต็ด และ ฟูแล่ม ก่อนจะดวลจุดโทษชนะไบรท์ตันไปได้ 7-6 ในรอบรองชนะเลิศ ผ่านเข้าชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยเป็นการดวลกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ต้องแพ้ไปด้วยสกอร์ 1-2 ชวดคว้าถ้วยเป็นปีที่ 7
2023-24: จะไปถึงไหน?
ณ ขณะที่เขียนนี้ เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเพิ่งจะเอาชนะวีแกนไปได้ 2-0 ในรอบ 3 และกำลังจะเจอคู่แข่งที่ง่ายที่สุดในรอบหลายปีเลยทีเดียวในรอบ 4 โดยต้องรอผลการแข่งขันระหว่างนิวพอร์ต เคาน์ตี้ จากฟุตบอลลีกทู หรือ อีสต์ลี จากเนชันนัลลีก ปีนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะไปจอดที่รอบไหน หรือจะไปจนสุดทางและคว้าแชมป์เอฟเอคัพสมัยที่ 13 มาครองได้สำเร็จ
เดิมพันโอกาสกันได้เลยที่ทางเข้า m88
ในฤดูกาล 2023-24 นี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังพอมีลุ้นอยู่แค่รายการเดียวเท่านั้น คือเอฟเอคัพ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งครับว่า ทีมรักของเราจะสู้เพื่อถ้วยรางวัล และความสุขของแฟนบอลอย่างเต็มที่จนจบฤดูกาล

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC